ประวัติและความเป็นมา
ตามนโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัย (พ.ศ. 2559) ตามยุทธ์การวิจัยที่ 2 ว่าด้วยการเรื่องการสร้างศักยภาพและความสามารถเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ อีกทั้งนโยบายกลุ่มเรื่องวิจัยเร่งด่วนข้อ 10 เรื่องการบริการการจัดการท่องเที่ยว และข้อที่ 12 เรื่องระบบโลจิสติกส์ ซึ่งแสดงให้เห็นความสำคัญของเรื่องความเร่งด่วนและความสำคัญของการบริหารการจัดการการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจเสรีอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Industry) มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่นำรายได้เข้าประเทศไทยอยู่ใน 5 อันดับแรกของประเทศ นอกจากนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวประกอบธุรกิจหลายประเภท ทั้งทางตรงและทางอ้อม การเข้ามาของท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้เกิดการนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย และสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้
เพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ โดยเฉพาะการกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะก่อให้การแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ธุรกิจท่องเที่ยวควรมีการจัดการระบบอย่างถูกต้อง
การสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาการจัดการโลจิสติกส์ จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดงานวิจัยที่ช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของพื้นที่ภาคตะวันตก และประเทศไทย ที่เป็นการบูรณาการความรู้ ระหว่างการจัดการด้านโลจิสติกส์และการจัดการการท่องเที่ยว รวมทั้งจะเป็นแหล่งที่รวบรวมข้อมูลที่สำคัญของการจัดการโลจิสติกส์ การจัดการการท่องเที่ยว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาการจัดการโลจิสติกส์และการท่องเที่ยว
1. ศึกษาและวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบข้อมูลในด้านโลจิสติกส์และขนส่งในภูมิภาคตะวันตก
2. ศึกษาและวิจัยเพื่อการพัฒนาระบบการจัดการธุรกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันตก
3. รวบรวมความรู้ การบูรณาการความรู้ ของการจัดการท่องเที่ยวและระบบโลจิสติกส์ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาโลจิสติกส์และการขนส่งสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ
4. สนับสนุนการให้ความรู้เพื่อการพัฒนาการจัดการโลจิสติกส์และการท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันตก