โครงการเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง (Tourism Watch for Thailand)
หลักการและเหตุผล
- ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไทยเป็นสิ่งที่ช่วยนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในประเทศถึงประมาณปีละ 600,000 ล้านบาท โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศถึงปีละ 13-15 ล้านคน และยังมีนักท่องเที่ยวในประเทศอีกปีละ 70-80 ล้านคน
- การท่องเที่ยวจึงก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศษรษฐกิจสามารถสร้างรายได้ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ส่งผลให้มีการแข่งขันทางธุรกิจท่องเที่ยวสูงขึ้น ทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับทวีป เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศของตนเอง ประกอบกับปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากกระแสโลกาภิวัฒน์ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว
- ทางคณะผู้วิจัยมีวัตถุประสงค์ที่จะดึงความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) ที่เป็นความรู้ที่แฝงอยู่ในผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่สั่งสมประสบการณ์มายาวนาน จนสามารถที่จะพยากรณ์แนวโน้มเหตุการณ์ในอนาคตได้ ซึ่งจะเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า ผู้ที่มีปัญญาปฎิบัติ (Tacit Knowledge Key Person) โดยเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทย
วัตถุประสงค์โครงการ
1. เพื่อสร้างระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยว เพื่อเสริมสร้างธุรกิจท่องเที่ยวไทย
2. เพื่อสร้างข้อมูลสารสนเทศในการเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยว
3. เพื่อประเมินผลการใช้ระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยว
ขอบเขตของการวิจัย
การวิจัยในครั้งนี้จะสร้างระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทยเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวไทย โดยจะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเท่านั้น
ผลการวิจัยที่คาดว่าจะได้รับ
6เดือนที่1
1. ได้ผู้ที่มีปัญญาปฎิบัติ (Tacit Knowledge key person) ที่มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศไทยประมาณ 20 คน
2. ได้เครื่องมือวัดการเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทย (Thai Tourism Barometer)
3. ได้ข้อมูล (Data) ในเรื่องการเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทย
4. ได้ระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทยเบื้องต้น
6เดือนที่2
1. ได้สารสนเทศ (Information) ในการเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทย
2. ได้ผลประเมินการใช้ระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
1. ทำให้ได้ระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวที่เข้ากับบริบททางการท่องเที่ยวของประเทศไทย
2. ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวสามารถนำสารสนเทศ (Information) ที่ได้จากระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
3. ทำให้เกิดความร่วมมือในส่วนของภาควิชาการ ภาครัฐ และภาคเอกชน
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- การวิจัยโครงการเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทยเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยวไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องสร้างระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทย เพื่อใช้ในการติดตามปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย โดยอาศัยการจัดการความรู้ผ่านทางผู้มีปัญญาปฎิบัติ (Tacit Knowledge key Person) การรวบรวมแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาดังนี้
- แนวคิดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย
- แนวคิดเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง
- แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการความรู้
- งานวิจัย/รายงานการเฝ้าระวังที่เกี่ยวข้อง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
- ประชากรในการวิจัย คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกของสมาคมทางด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และสมาคมการบริหารโรงแรมไทย
- กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่เป็นสมาชิกของสมาคมทางด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และสมาคมภัตตาคาร จำนวน 1000 ราย
การประชาสัมพันธ์
1. จัดส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ไปยังผู้บริหารโรงแรม จำนวน 634 ราย
2. ทำจดหมายประชาสัมพันธ์เว็บไซค์ ถึงนายกสมาคมทางด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ดังนี้
- สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ต่อให้กับสมาชิก ได้เข้ามาเยี่ยมชมและใช้ประโยชน์จากเว็บไซค์
3. ประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว็บไซค์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม http://www.npru.ac.th/
4. ประชาสัมพันธ์ในงานประชุมสามัญประจำปีของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ณ โรงแรมตะวันนารามาดา เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 200 ราย
5. ประชาสัมพันธ์ โยลิงค์ (link) กับเว็บไซค์ของการท่องเที่ยว http://www.tourism.go.th/ และสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย http://www.pgathaiguide.com/
จากนั้นทำการเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงระหว่างวันที่ประชาสัมพันธ์เว็บไซค์ คือ 19 เม.ย. 2554 จนถึงวันที่ 22 ก.ค.2554 โดยการประเมินจะดูจากจำนวนและร้อยละของผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซค์ และจากแบบสอบถามที่ผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซค์โดยรายงานเป็นจำนวนร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสรุปข้อเสนอแนะ
ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยทำข้อมูลจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซค์และการกรอกแบบประเมินไปวิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป โดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้
1. วิเคราะห์ข้อมูลจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยหาค่าความถี่ และค่าร้อยละ ในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนดไว้
2. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินโดยหาค่าความถี่ และค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการนำสารสนเทศจากระบบเฝ้าระวังการจัดการการท่องเที่ยวไทยไปใช้
3. วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ในส่วนข้อเสนอแนะโดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการประเมิน
จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซค์รวม 1257 ราย
จำนวนผู้ตอบแบบประเมิน 118 คน